แกะกลยุทธ์ลับ พาธุรกิจเข้าไปอยู่ในใจลูกค้าอย่างยั่งยืน

          การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่การสร้างยอดขายให้ปัง มีกำไรเหลือ เพราะอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยชี้วัดระดับการยอมรับจากลูกค้าได้ก็คือการพาธุรกิจเข้าไปอยู่ในใจลูกค้า สร้างตัวตนให้เป็นที่รู้จัก เกิดกระแสเชิงบวกจนลูกค้าบอกกันปากต่อปาก

          ยุค Next Normal การแข่งขันทางธุรกิจดุเดือด ใครช้ามีสิทธิ์ล้มพับ ใครปรับตัวไวมีโอกาสอยู่รอดต่อเนื่อง ซึ่งตัว ชี้วัดว่าธุรกิจประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน? นอกเหนือจากการยืนอยู่ได้ด้วยสินค้าและบริการที่ดีแล้ว การสร้างธุรกิจให้กลายเป็นที่พูดถึงของกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด ก็เป็นอีกด่านที่ทุกธุรกิจต้องเจอเพราะกระแสเชิงบวกที่เกิดการบอกต่อจากปากลูกค้าตัวจริงของคุณจะช่วยสร้างฐานลูกค้าให้มั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น สร้างยอดขายได้ต่อเนื่อง ชนิดที่ว่า “ถ้าลูกค้าต้องการใช้สินค้าหรือบริการชนิดนั้นๆ เค้าจะนึกถึงคุณขึ้นมาทันที หรือคิดถึงเป็นอันดับแรกๆ เสมอ”

ทริคเข้าไปอยู่ในใจลูกค้า พายอดขายพุ่ง

● สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า “สม่ำเสมอ”

          สิ่งที่จะพาธุรกิจเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จได้เร็วขึ้นก็คือ “การทำให้ธุรกิจอยู่ได้อย่างยั่งยืน” ด้วยการทำให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจ ทุกครั้งที่เข้ามาเลือกใช้บริการ (ไม่ว่าครั้งนั้นๆ ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อหรือไม่) เพราะไม่ว่าธุรกิจของคุณจะมีหน้าร้าน / ขายสินค้าทางออนไลน์ ทีมงานทุกคนรวมถึงเจ้าของธุรกิจ ควรยึดมั่นในการเทคแคร์ลูกค้าด้วยความจริงใจและใส่ใจ หากเกิดปัญหาต้องรีบแก้ไขไม่ใช่แก้ตัว วิธีนี้จะช่วยให้เค้า (ลูกค้า) รู้สึกว่าความคิดของตัวเอง มีความหมาย น่าไว้วางใจในสินค้า / บริการมากขึ้น เพิ่มโอกาสการซื้อซ้ำในอนาคต

● รับฟังเสียงจากลูกค้า “อย่างไม่อคติ”

          ในทุกธุรกิจ ย่อมมีลูกค้ามากหน้าหลายตา หลากหลายกลุ่มแตกต่างกันไป ไลฟ์สไตล์ ลูกค้าแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นแบรนด์ควรเปิดใจให้กว้าง เปิดรับคำติชมอย่างไม่มีใจอคติ ไม่ยึดมั่นว่าเราดีแล้วพอแล้ว เพราะในหลายๆครั้งฟีดแบคจากลูกค้าตัวจริงนี่ล่ะ คือรางวัลแก่ธุรกิจเรา ช่วยให้เรานำคำติชมนั้นมาเป็นแนวทางในการพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละได้ตรงจุด ตรงกลุ่มมากกว่าเดิม และช่วยสร้างความสัมพันธ์อันนี้ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ได้อีกด้วย (brand loyalty)

● นำเสนอจุดเด่น แก้ไขจุดบกพร่อง

          นอกจากการให้บริการที่ดี ทำให้แบรนด์เข้าไปนั่งในใจลูกค้าได้แล้ว ตัวสินค้าก็เป็นอีก หนึ่งโจทย์หลักของธุรกิจ นั่นเพราะลึกๆแล้วลูกค้าต่างคาดหวังผลลัพธ์จากเงินที่จ่ายไปไม่ มากก็น้อย แต่หวังแน่ๆ หน้าที่ของคนทำธุรกิจอย่างเราคือ “เสนอจุดเด่นของสินค้า เพื่อเข้าไป แก้ไขจุดบกพร่อง / ปัญหาที่ลูกค้าต้องเจอ” แม้ความจริงเราจะไม่สามารถการันตีผลลัพธ์ได้ 100% แต่เราสามารถนำเสนอจุดเด่นของสินค้าเราให้ตอบโจทย์ปัญหาในใจเค้า(ลูกค้า) ให้ได้มากที่สุด อย่างน้อยก็ช่วยตอบคำถามในสิ่งที่ลูกค้าสงสัยได้ชัดเจน ตรงความต้องการ

          ตัวอย่างเช่นร้านอาหาร ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการครั้งแรก เราไม่รู้หรอกว่าลูกค้าชอบรสจัด ชอบรสอาหารแบบไหน สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือ “สอบถาม” หลีกเลี่ยงสิ่งที่ลูกค้าไม่ต้องการ ให้ได้มากที่สุด เลือกนำเสนอจุดเด่นของร้านเราให้ลูกค้ารับรู้ ที่สำคัญอย่าลืมว่า “การมีใจบริการ ช่วยให้รสชาติอาหารแต่ละคำอร่อยขึ้นได้” แม้ท้ายที่สุด ลูกค้าอาจไม่ประทับใจในรสชาติ อาหารมากเท่าไหร่นัก คุณก็ยังมีการบริการที่ดีเข้าไปช่วยปิดจุดบอดจุดนี้ซะหมดสิ้น 

● มีแผน B รออยู่เสมอ

          เมื่อเราไม่รู้ว่าสินค้าและบริการของเรานั้น จะตรงตามความต้องการของลูกค้า 100% หรือไม่? การวางแผนเพื่อรับมือกับปัญหาทุกเคส ทุกปัญหา เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามไป อาทิ  การเคลมสินค้า การดูแลลูกค้าหลังการขาย การสอบถามความพึงพอใจเมื่อได้รับสินค้า การบอกเงื่อนไข ข้อจำกัดของสินค้าด้วยการ “บอกลูกค้าก่อน” ก่อนลูกค้าตัดสินใจซื้อ ก็เป็นอีกกลยุทธ์ ปิดช่องโหว่ธุรกิจ ไม่ต้องรอให้เกิดปัญหาก่อน แล้วค่อยให้ลูกค้ามาตามถามหาเอง

● วิเคราะห์ข้อมูล รู้จักลูกค้าให้มากขึ้น

          ถ้าอยากพัฒนายอดขายให้พุ่งกระฉูดมากกว่า 20% ขอแนะนำให้คุณลองวิเคราะห์ข้อมูล ลูกค้าร่วมกับการพัฒนาการบริการ เพราะข้อมูลจะช่วยให้รู้เค้ารู้เรา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทีมงาน แถมยังเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากกว่าเดิม เพราะข้อมูลที่แท้จริงจะช่วยให้รู้ว่า ลูกค้าแต่ละคนชอบอะไร? ไม่ชอบอะไร? มีการตอบสนองอย่างไรต่อการบริการหรือสินค้านั้น

          ในที่นี้ยังรวมไปถึงการใช้ CDP หรือ Customer Data Platform เพื่อทำให้แบรนด์ของ คุณรู้จักลูกค้าให้มากขึ้น (รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก >> https://www.cocktailpro.co) หากทำได้ต่อเนื่องดังนี้ ไม่นานเกินรอ คุณจะขึ้นแท่นแบรนด์ที่ลูกค้าประทับใจ บอกต่อ ซื้อซ้ำ และใช้บริการซ้ำมากที่สุดอีกแบรนด์หนึ่งเลยล่ะ               

● สร้างกระแส mouth to mouth

          ปิดท้ายด้วย การสร้างกระแส mouth to mouth หรือการตลาดแบบบอกต่อ คนนี้บอกคนนั้น คนนั้นไปบอกคนโน้นต่อ ทริคนี้คุณอาจใช้วิธีมอบของขวัญพิเศษในเทศกาลต่างๆ การมีของ Limited น่ารักๆ น่าสะสม แต่มีจำนวนจำกัด ข้อควรระวังคือ ควรมอบสิ่งของที่มีคุณภาพ ไม่ไก่กา ต้นทุนอาจไม่ได้แพงมาก แต่เน้นให้มีกิมมิค มีลูกเล่นนิดๆ กระตุ้นการอยากซื้อ เพิ่มยอดขายได้อีกทาง

          ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลยคือ แคมเปญของร้านกาแฟ Amazon ที่แจกแก้วสีมงคลประจำวัน ฟรี! เมื่อซื้อเครื่องดื่ม 2 แก้ว แม้เป็นแคมเปญระยะสั้น แต่ได้รับการตอบรับท่วมท้น ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ

สนใจระบบ CRM เพื่อใช้เก็บฐานข้อมูล และสามารถนำไปต่อยอดในการสร้างโปรโมชัน โดยการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้คุณเข้าใจลูกค้ามากขึ้น!